เรื่องหนักในโรงเรียน #1 : Taisetsu na Koto wa Subete Kimi ga Oshiete Kureta
ถ้าหนัง Confession จะทำให้ผู้ชมเหวอกับความสุดทางของด้านมืดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมญี่ปุ่น ฉันจะขอนำเสนอซีรีส์ญี่ปุ่น 2 เรื่องที่พูดเรื่องอะไรทำนองนี้ มีฉากหลังเป็นโรงเรียนมัธยมเหมือนกัน แค่วิธีการนำเสนออาจไม่แรงเท่า
เรื่องแรกที่จะขอกล่าวเป็นซีรีส์ชื่อยาวได้โล่ 'Taisetsu na Koto wa Subete Kimi ga Oshiete Kureta' (大切なことはすべて君が教えてくれた หรือแปลเป็นภาษาคนได้ความว่า 'เธอสอนให้ฉันได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ') พล็อตมีอยู่ว่า คุณครูหนุ่มรูปงามผู้ซึ่งกำลังจะแต่งงานกับคุณครูสาวแสนดีในเร็ววัน ดันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันเปิดเทอมโดยพบว่าตัวเองนอนเปลือยอยู่ข้างๆ เด็กสาวคนหนึ่งที่ก็เปลือยอยู่เหมือนกัน คุณครูหนุ่มหอบความงงวยไปจนถึงโรงเรียน ทำเนียนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แค่แป๊บเดียวคุณครูหนุ่มก็ได้รู้ว่า เด็กสาวนิรนามคนนั้น คือนักเรียนคนหนึ่งในห้องม.5/2 ที่เขาเป็นครูประจำชั้น
(จากตรงนี้ไปจะสปอยล์แล้วนะ ถ้าคิดว่าจะดูซีรีส์เรื่องนี้จริงๆ ก็ไปดูก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านก็ได้จ้ะ)
ความประลัยของเรื่องนี้เริ่มต้นจากตรงนั้น และก็วายป่วงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อซับพล็อตเริ่มทำงาน เราพบว่า ไซกิ ฮิคาริ หรือเด็กนักเรียนหญิงคนนั้นป่วยเป็นโรคประหลาด เธอมีฮอร์โมนความเป็นผู้หญิงต่ำกว่าที่ควร คุณหมอเลยแนะนำว่าการมีเซ็กส์เป็นหนทางหนึ่งในการรักษา ซ้ำอีกดอกด้วยปมเรื่องครอบครัว การจากไปของพี่สาวที่เพียบพร้อมกว่าเธอในทุกด้าน ทำให้พ่อและแม่ยังคงเสียใจ/เสียดาย คร่ำครวญอยู่กับการตายของลูกสาวคนโต จนทำให้ครอบครัวพังทลาย ด้วยความเศร้า เหงา ดราม่าจนอยากประชดชีวิต ทำให้ในคืนหนึ่ง หนูไซกิแต่งตัวสวยเป็นสาวออกไปล่าแต้ม เธอเสียตัวให้เสี่ยที่ไหนก็ไม่รู้ไปหนึ่งที พอออกจากโรงแรมเธอมาพบกับคุณครูหนุ่มเมามายไม่ได้สติ เธอก็เลยอาสาพาเขาไปส่งที่บ้าน ด้วยใจที่แอบชอบคุณครูหนุ่มเป็นทุนเดิม เธอก็เลยขอนอนกอดครูหนุ่มทั้งคืน แต่ดันเผลอหลับยาว ทำให้เกิดเป็นเรื่องเข้าใจผิดใหญ่โตตามมาทีหลัง
ด้านคุณครูหนุ่ม แม้ในตอนแรกจะพยายามปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับ ทั้งต่อแฟนสาวและต่อโรงเรียน แต่ด้วยเหตุปัจจัยร้อยแปด สุดท้ายความก็แดงออกมา จากครูหนุ่มสุดเพอร์เฟ็คต์ ที่คุณแม่ผู้ปกครองพาลูกๆ มาฝากฝังชีวิตไว้ กลายเป็นครูตกอับ ครูด้วยกันด่าใส่ต่อหน้า คุณพ่อคุณแม่โทรเข้ามาด่า นักเรียนก็ไม่เคารพ ยังจะต้องรู้สึกผิดกับคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกันอีก สุดท้ายแม้ความจริงจะปรากฏว่าเขาไม่ได้ล่วงเกินนักเรียน เขาโดนโทษเบาๆ ด้วยการพักงานชั่วคราว 6 เดือน
ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยดี เขาและคู่หมั้นควรจะได้เดินหน้าแต่งงานกันต่อไป แต่เรื่องมันยังไม่จบ เมื่อคุณครูหนุ่มของเราเริ่มไม่แน่ใจถึงอนาคตของหนูไซกิในโรงเรียนนี้ หลังจากเธอเล่าเรื่องฉาวๆ ของตัวเองออกมาต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นและครูทั้งโรงเรียน เกิดเป็นความห่วงใยเกินพอดีของคุณครูหนุ่ม จนดูเหมือนว่า ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าการแต่งงานคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น และตัวเขาควรจะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับความชิบหายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับชีวิตไซกิ
6 เดือนหลังการถูกพักงาน ครูหนุ่มกลับมาที่โรงเรียน แล้วพบว่าอดีตคู่หมั้นของตัวเองตั้งท้องลูกของเขา แต่เธอไม่ขอให้เขารับผิดชอบใดๆ เธอตั้งใจจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ตัวเขาแม้ไม่สบายใจแต่ก็ต้องแพ้ให้กับความเด็ดเดี่ยวของอดีตแฟน แต่เรื่องนี้เป็นความลับได้ไม่นาน ทั้งโรงเรียนรับรู้เรื่องนี้อีกครั้ง และรอบนี้ครูหนุ่มของเราไม่อาจหลบเลี่ยงความผิดไปได้ ข้อหาทำผู้หญิงท้องก่อนแต่ง แถมไม่รับผิดชอบอีก เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะให้อภัยได้ มาถึงตรงนี้ดูเหมือนครูหนุ่มมีหลายเรื่องที่ต้องสะสางเหลือเกิน ทั้งความรู้สึกต่อไซกิที่ยังคลุมเครือ ความรับผิดชอบในฐานะพ่อของลูกที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง และการต้องเป็นครูประจำชั้น เป็นตัวอย่าง แนะนำแนวทางการใช้ชีวิตให้กับเด็กนักเรียน แต่ก็ดูเหมือนว่า ตัวเขาเองยังเอาตัวรอดไม่ค่อยจะได้
ถ้าดูจากนักแสดงนำของเรื่อง คือ Miura Haruma (พระเอก Koizora, Bloody Monday) และ Toda Erika (มิสะมิสะ จาก Death note) ก็ดูว่าซีรีส์นี้ดูจะเป็นแค่หนังโรแมนติก - ดราม่า ที่มีพระนางสวยหล่อทันสมัย คือจริงๆ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ แต่ถ้านั่งดูไปเรื่อยๆ เราจะค่อยๆ รู้สึกว่าหลายๆ เหตุการณ์ในเรื่องนี้มันแรง แต่มันกลับถูกพูดถึงอย่างธรรมดาเรียบแบนมาก ที่เห็นได้ชัดๆ จะมีอยู่ 2 ประเด็น คือ
เด็กกับผู้ใหญ่ รักกันไม่ได้เลยเหรอ?
เด็กกับผู้ใหญ่ในเรื่องนี้ถูกทำให้หนักขึ้นด้วยการสวมหัวความเป็นครูและนักเรียนเข้าไป นอกจากคู่ไซกิกับคุณครูหนุ่มแล้ว ครูสาวคู่หมั้นก็มีนักเรียนชายคนหนึ่งมาแอบชอบ ฉันเชื่อว่าเราทุกคนก็ต้องเคยมีโมเมนท์การแอบชอบครูกันมาทั้งนั้น แต่มันก็มักจะเกิดขึ้นเล่นๆ เอาไว้กรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนเท่านั้น เราไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับครู แต่ไม่ใช่ในเรื่องนี้ ความรักความชอบของนักเรียนถูกพูดถึงในด้านที่เด็กๆ เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ชอบมนุษย์อีกคนหนึ่ง หลายบทสนทนาทำให้ผู้ชมเห็นว่าพวกเขาจริงจังกับความสัมพันธ์นี้ โดยไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นครูของตน ครึ่งหนึ่งในความรู้สึกของผู้ชมอาจเชียร์ให้เด็กและคุณครูสมหวังกันซักที แต่ด้วยความเชื่อและกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนดไม่อาจทำให้เราคิดได้เต็มความรู้สึก มันดูขัดแย้งกันอย่างไรชอบกล
ถ้าโรงเรียนเป็นบริษัทธรรมดาๆ เราคงไม่ต้องมานั่งด่ากันแบบนี้สินะ...
นี่เป็นประโยคที่ตัวละครคุณครูผู้เจนโลกพูดขึ้นมาลอยๆ ในฉากห้องพักครู ที่ครูทุกคนกำลังรุมด่าครูหนุ่มในโทษฐานทำผู้หญิงท้อง ประเด็นนี้จริงๆ มันก็ต่อมาจากประเด็นข้างบนนั่นล่ะ ทำให้ฉันนึกถึงคำที่ว่า "โรงเรียนสีขาว" คือโรงเรียนจะต้องเป็นสถานที่ที่คนเชื่อได้ว่ามีมาตรฐานทางศีลธรรมสูงกว่าที่อื่นๆ (แต่อาจจะน้อยกว่าวัด) ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนควรเป็นไปอย่างเหมาะสม และถูกต้อง คนเป็นครูถูกคาดหวังไม่ต่างจากนักบวช คือพวกเราต้องดำรงไว้ซึ่งศีลธรรมอันดีงาม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีกับนักเรียนสืบต่อกันไป
แต่ถ้าคิดแบบกลับหัวสุดโต่งไปเลยว่า โรงเรียนจริงๆ แล้วมันก็เป็นแค่องค์กรหนึ่ง มีคนจ่ายเงินแลกความรู้จากอีกคนหนึ่ง อาชีพครูคืองานบริการอย่างหนึ่ง ทำให้ลูกค้าพอใจก็เป็นอันจบ ถ้าพนักงานในองค์กรสองคนได้กัน ฝ่ายหญิงท้องขึ้นมา ไม่มีใครต้องได้รับโทษอย่างเป็นรูปเป็นร่าง แค่ทนฟังเสียงนินทา เย้ยหยันไปซักสี่ห้าเดือนคนก็ลืม ไม่ต้องมีบรรทัดฐานที่สูงกว่าโลกภายนอกมาบังคับใช้ในองค์กรที่ชื่อโรงเรียน อะไรจะเกิดขึ้นก็ได้ ใครจะชอบใคร ได้กับใคร ให้มันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกไป
จริงๆ เรื่องมันแค่แหย่เอาไว้แค่นั้นล่ะ เพราะถ้าจะต่อสองประเด็นนี้ให้ยืดยาว เรื่องคงจะมืดหม่นและหนักเต็มที สุดท้ายเรื่องก็คลี่คลายไปในทางที่ควรจะเป็น (ที่พอจะเดากันออก) ที่ดูเหมือนจะแรงค่อยๆ ถูกลดน้ำหนักลง กลับมาเข้ารูปเข้ารอยความเป็นโรแมนติก - ดราม่าต่อไป
6 เดือนหลังการถูกพักงาน ครูหนุ่มกลับมาที่โรงเรียน แล้วพบว่าอดีตคู่หมั้นของตัวเองตั้งท้องลูกของเขา แต่เธอไม่ขอให้เขารับผิดชอบใดๆ เธอตั้งใจจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ตัวเขาแม้ไม่สบายใจแต่ก็ต้องแพ้ให้กับความเด็ดเดี่ยวของอดีตแฟน แต่เรื่องนี้เป็นความลับได้ไม่นาน ทั้งโรงเรียนรับรู้เรื่องนี้อีกครั้ง และรอบนี้ครูหนุ่มของเราไม่อาจหลบเลี่ยงความผิดไปได้ ข้อหาทำผู้หญิงท้องก่อนแต่ง แถมไม่รับผิดชอบอีก เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะให้อภัยได้ มาถึงตรงนี้ดูเหมือนครูหนุ่มมีหลายเรื่องที่ต้องสะสางเหลือเกิน ทั้งความรู้สึกต่อไซกิที่ยังคลุมเครือ ความรับผิดชอบในฐานะพ่อของลูกที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง และการต้องเป็นครูประจำชั้น เป็นตัวอย่าง แนะนำแนวทางการใช้ชีวิตให้กับเด็กนักเรียน แต่ก็ดูเหมือนว่า ตัวเขาเองยังเอาตัวรอดไม่ค่อยจะได้
ถ้าดูจากนักแสดงนำของเรื่อง คือ Miura Haruma (พระเอก Koizora, Bloody Monday) และ Toda Erika (มิสะมิสะ จาก Death note) ก็ดูว่าซีรีส์นี้ดูจะเป็นแค่หนังโรแมนติก - ดราม่า ที่มีพระนางสวยหล่อทันสมัย คือจริงๆ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ แต่ถ้านั่งดูไปเรื่อยๆ เราจะค่อยๆ รู้สึกว่าหลายๆ เหตุการณ์ในเรื่องนี้มันแรง แต่มันกลับถูกพูดถึงอย่างธรรมดาเรียบแบนมาก ที่เห็นได้ชัดๆ จะมีอยู่ 2 ประเด็น คือ
เด็กกับผู้ใหญ่ รักกันไม่ได้เลยเหรอ?
เด็กกับผู้ใหญ่ในเรื่องนี้ถูกทำให้หนักขึ้นด้วยการสวมหัวความเป็นครูและนักเรียนเข้าไป นอกจากคู่ไซกิกับคุณครูหนุ่มแล้ว ครูสาวคู่หมั้นก็มีนักเรียนชายคนหนึ่งมาแอบชอบ ฉันเชื่อว่าเราทุกคนก็ต้องเคยมีโมเมนท์การแอบชอบครูกันมาทั้งนั้น แต่มันก็มักจะเกิดขึ้นเล่นๆ เอาไว้กรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนเท่านั้น เราไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับครู แต่ไม่ใช่ในเรื่องนี้ ความรักความชอบของนักเรียนถูกพูดถึงในด้านที่เด็กๆ เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ชอบมนุษย์อีกคนหนึ่ง หลายบทสนทนาทำให้ผู้ชมเห็นว่าพวกเขาจริงจังกับความสัมพันธ์นี้ โดยไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นครูของตน ครึ่งหนึ่งในความรู้สึกของผู้ชมอาจเชียร์ให้เด็กและคุณครูสมหวังกันซักที แต่ด้วยความเชื่อและกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนดไม่อาจทำให้เราคิดได้เต็มความรู้สึก มันดูขัดแย้งกันอย่างไรชอบกล
ถ้าโรงเรียนเป็นบริษัทธรรมดาๆ เราคงไม่ต้องมานั่งด่ากันแบบนี้สินะ...
นี่เป็นประโยคที่ตัวละครคุณครูผู้เจนโลกพูดขึ้นมาลอยๆ ในฉากห้องพักครู ที่ครูทุกคนกำลังรุมด่าครูหนุ่มในโทษฐานทำผู้หญิงท้อง ประเด็นนี้จริงๆ มันก็ต่อมาจากประเด็นข้างบนนั่นล่ะ ทำให้ฉันนึกถึงคำที่ว่า "โรงเรียนสีขาว" คือโรงเรียนจะต้องเป็นสถานที่ที่คนเชื่อได้ว่ามีมาตรฐานทางศีลธรรมสูงกว่าที่อื่นๆ (แต่อาจจะน้อยกว่าวัด) ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนควรเป็นไปอย่างเหมาะสม และถูกต้อง คนเป็นครูถูกคาดหวังไม่ต่างจากนักบวช คือพวกเราต้องดำรงไว้ซึ่งศีลธรรมอันดีงาม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีกับนักเรียนสืบต่อกันไป
แต่ถ้าคิดแบบกลับหัวสุดโต่งไปเลยว่า โรงเรียนจริงๆ แล้วมันก็เป็นแค่องค์กรหนึ่ง มีคนจ่ายเงินแลกความรู้จากอีกคนหนึ่ง อาชีพครูคืองานบริการอย่างหนึ่ง ทำให้ลูกค้าพอใจก็เป็นอันจบ ถ้าพนักงานในองค์กรสองคนได้กัน ฝ่ายหญิงท้องขึ้นมา ไม่มีใครต้องได้รับโทษอย่างเป็นรูปเป็นร่าง แค่ทนฟังเสียงนินทา เย้ยหยันไปซักสี่ห้าเดือนคนก็ลืม ไม่ต้องมีบรรทัดฐานที่สูงกว่าโลกภายนอกมาบังคับใช้ในองค์กรที่ชื่อโรงเรียน อะไรจะเกิดขึ้นก็ได้ ใครจะชอบใคร ได้กับใคร ให้มันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกไป
จริงๆ เรื่องมันแค่แหย่เอาไว้แค่นั้นล่ะ เพราะถ้าจะต่อสองประเด็นนี้ให้ยืดยาว เรื่องคงจะมืดหม่นและหนักเต็มที สุดท้ายเรื่องก็คลี่คลายไปในทางที่ควรจะเป็น (ที่พอจะเดากันออก) ที่ดูเหมือนจะแรงค่อยๆ ถูกลดน้ำหนักลง กลับมาเข้ารูปเข้ารอยความเป็นโรแมนติก - ดราม่าต่อไป
อีกอย่างที่ทำให้ฉันเชื่อว่าเรื่องนี้ถูกตั้งใจทำให้แรง คือการใช้เพลงประกอบทั้งเรื่องเป็นเพลงดังของ PINK เช่น Stupid Girl, Fun House, Runaway, Dear Mr. President และ Fuckin' Perfect ที่ฉันว่ามันอธิบายคาแรกเตอร์ของครูหนุ่มได้ภายในหนึ่งเพลง นอกจากสามเพลงนี้เราจะได้ยินเพลงฮิตๆ ของ PINK ที่เนื้อหาคมคาย แต่ก็หยาบคายเช่นกัน ของ PINK วนเวียนทั้งเรื่อง (ยกมาทั้งอัลบั้ม Greatest Hits...So Far!!!) ส่วนสกอร์ประกอบเป็นผลงานของ ฮายาชิ ยูกิ (Hayashi Yuki)
อีกส่วนที่ชอบมาก คือคาแรกเตอร์ของคุณครูฝ่ายหญิง อุเอมุระ นัทสึมิ เธอเป็นผู้หญิงในอุดมคติของฉันเลย คือไม่งี่เง่าจนเกินงาม และมองไปข้างหน้าเสมอ ความเท่ในตัวละครตัวนี้มีเยอะมากจนน่าสรรเสริญ แถมโทดะ เอริกะ ที่มารับบทนี้ก็แสดงได้ในระดับน่าชื่นชม ทำเอาฉันต้องไปรื้อหนังและซีรีส์เก่าๆ ของเธอขึ้นมาดู กลายเป็นนักแสดงคนโปรดไปอีกราย ><
จบแล้วสำหรับเรื่องนี้ ในบล็อกหน้าจะเขียนถึงอีกเรื่องที่หนักกว่าเรื่องนี้อีกเลเวล เป็นซีรีส์เก่าแล้ว แต่ฉันเพิ่งได้ดู ชื่อเรื่องว่า Watashitachi no Kyokasho หรือ Our Textbook ถ้าสนใจก็ติดตามกันต่อไปนะคะ
- เกร็ดเล็กน้อย -
นอกจากมิอุระ และโทดะ เรื่องนี้ยังมี ชิโนดะ มาริโกะ (Shinoda Mariko) หนึ่งในสมาชิก AKB48 มารับบทเพื่อนซี้ของนางเอก + แฟนเก่าของพระเอก (มันซับซ้อนไปมั้ย) เธอน่ารักมาก และเธอมีเคมีที่ตรงกับโทดะจังมากซะจนพอจบการถ่ายทำเรื่องนี้ เธอและโทดะจังก็กลายเป็นเพื่อนซี้นอกจอกันไปเลย (เห็นได้จากบทสัมภาษณ์ทั้งในนิตยสารและทีวี ที่ทั้งคู่จะออกมาพูดถึงกันบ่อยๆ)
เพลง Fuckin' Perfect - PINK
ปล. เครดิตทุกภาพจาก Popcornfor2 จ้ะ