Usagi Drop: มีลูกกันเหอะ
Usagi Drop『うさぎドロップ』(2011), B+
Director: SABU
Cast: Kenichi Matsuyama, Ashida Mana, Mirei Kiritani, Karina
Director: SABU
Cast: Kenichi Matsuyama, Ashida Mana, Mirei Kiritani, Karina
ไดคิจิ คาวาชิ (Kenichi Matsuyama) พนักงานบริษัทธรรมดาหน้าตาจืดและโสด เขาได้ไปร่วมงานศพของคุณตา และได้พบว่าคุณตาได้ทิ้ง ริน คางะ (Ashida Mana) ลูกสาววัย 6 ขวบเอาไว้ข้างหลัง ท่ามกลางญาติพี่น้องที่ต่างก็มีข้ออ้างนานาที่จะไม่รับเด็กคนนี้ไปเลี้ยง ไอคิจิยืนขึ้นและรับอาสาที่จะดูแลเด็กหญิงที่มีศักดิ์เป็นน้าของตัวเองคนนี้ไว้เอง และจากการตัดสินใจในวันนั้น ไดคิจิได้พบว่า การเลี้ยงดูเด็กหนึ่งคนให้เติบโตขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่ายหรือเท่ หากแต่มันมีรายละเอียดมากมายที่เขาจะต้องเรียนรู้
ชอบวิธีการเล่าเรื่องในช่วง เปิด ที่ทำให้หนังไม่เหมือนกับหน ังแนวพ่อแม่บุญธรรมเรื่องอื ่นๆ แต่หลังจากนั้นมันก็ดำเนินเ รื่องไปตามที่ควรจะเป็น แต่หนังก็ยังมีไสตล์ของซาบุ ปนมาเบาๆ เช่น ฉากที่ตัวละครต้องวิ่งออกไป เพื่ออะไรบางอย่าง, ชีวิตที่น่าเศร้าของมนุษย์เ งินเดือน, ด้านที่มีชีวิตชีวาของคนที่ ดูเหมือนจะเป็นพลเมืองชั้นสองอย่างผู ้ใช้แรงงาน และมุขหักมุมที่ยังพอมีอยู่ บ้าง แต่ไม่จัดจ้านเหมือนเรื่องก ่อนๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นเสน่ห์ของ หนังซาบุ ส่วนวิธีการกำกับเรื่องนี้ข องซาบุคือไม่มีสคริปต์ เพื่อให้ได้รีแอ็กชั่นที่เป็นเปนธรรมชาติมากๆ ของนักแสดงแต่ละคน
การแสดงของ Kenichi ดีมาก ในหลายๆ ฉากที่ธรรมดามาก เช่นการไปเดินเลือกซื้อเสื้ อผ้าเด็กในห้าง หรือฉากที่เขานั่งดูการแสดง ของเด็กอนุบาล เคนอิจิมีแววตาท่าทางของควา มเป็นพ่อ ดูอบอุ่นและน่ากอดมากจนอยาก ได้มาเป็นพ่อของลูก แต่กระนั้นด้านที่เป็นมนุษย ์เพี้ยนๆ ก็ยังคงมีอยู่ และพาลให้นึกถึงสมัยที่เขาแ สดงเป็นเคราเซอร์ซังใน Detroit Metal City (2008)
อีกอย่างที่ช่วยให้หนังน่าด ูและดำเนินไปได้ก็คือเคมีที ่เข้ากันของ Kenichi และหนู Ashida Mana ที่ฝีมือการแสดงโตเกินอายุ แม้หลังๆ ฉันจะค่อนข้างเบื่อกับการเห ็นน้องโหมเล่นโฆษณาและเริ่ม จริตเยอะเกินไป แต่ในหนังเธอก็เป็นเด็กธรรม ดาที่พอจะเชื่อได้ถึงความน่ ารัก และน่าสงสาร ท่าทางว่าดวงน้องคงจะถูกโฉล กกับบทเด็กกำพร้า เพราะเท่าที่รู้ก็ปาไปสามเร ื่องแล้วที่นางได้เล่นแนวนี ้ (ซีรี่ส์เรื่อง Mother, ซีรีส์เรื่อง Marumo no Okite และเรื่องนี้ Usagi drop)
หนังเรื่องนี้ดี แต่ก็ยังไม่ถือว่าดีมาก เพราะด้วยความที่มันเล่าเรื ่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแ ละลูกบุญธรรม แวดล้อมด้วยความสัมพันธ์ของ ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมงาน ยังมีพื้นที่ให้ทำอะไรอีกมา กแต่หนังยังไม่ได้ทำไปถึงตร งนั้น ฉากไคลแม็กซ์ หรือฉากที่เป็นจุดเปลี่ยนทั ้งหลายยังไม่รู้สึกว่ามันมี น้ำหนักมากพอ แต่ก็นั่นแหละ คือพอมันเป็นเรื่องของมนุษย ์ เป็นความสัมพันธ์ มันก็จะมีพื้นที่สีเทาๆ ให้เรารู้สึกว่า เออ มันก็คงพอจะเป็นไปได้แหละนะ
ส่วนประเด็นของหนังที่ว่าด้ วยเรื่องของครอบครัว การเป็นพ่อแม่ ปัญหาเด็กกำพร้าหรือเด็กที่ ครอบครัวไม่สมบูรณ์ ก็ถือว่าหนังนำเสนอในด้านสว ่างให้เราดู เป็นด้านที่มีความหวังและจั ดการได้ ถ้าอยู่เมืองไทยหนังเรื่องน ี้คงสังกัดค่าย GTH เพราะมันค่อนข้าง feel good เอาเข้าจริงๆ หนังเปิดประเด็นในความเป็นไ ปได้ที่จะเกิดเรื่องร้ายเอา ไว้ในหลายฉาก ตั้งแต่ตอนเริ่มที่เราได้เห ็นบรรดาญาติพี่น้องหัวใจเย็ นชา, ฉากในโรงเรียนอนุบาล ความสัมพันธ์ระหว่างรินจังก ับเพื่อนร่วมชั้น หรือฉากหนุ่มปริศนาหน้าหื่น ๆ ปรากฏตัวตอนที่เด็กน้อยสองค นกำลังเดินหลงทาง เรื่องพวกนี้คือปัญหาที่เด็ กๆ จะได้เจอ และสามารถเอาไปขยายความและน ำเสนอได้อีกหลายทางมาก แต่ฉันว่าก็โอเคแล้วที่ Usagi Drop เลือกที่จะไม่ไปสนใจกับอะไร พวกนี้มาก ปล่อยให้เป็นแค่รายละเอียดข องหนัง แล้วมุ่งไปนำเสนอด้านบวกเพื ่อคลี่คลายไปในทางที่ดีมากก ว่า
อย่างที่ในเรื่องว่า การมีลูกทำให้เรามีความสุข แม้ว่าจะต้องเสียสละอะไรบาง อย่างไป เพื่อแค่ได้เห็นเขาในตอนที่ เราตื่น และเห็นเขากลับบ้านมาในตอนเ ย็นอย่างปลอดภัย เห็นป่ะว่ามันฟีลกู้ดขนาดไห น มีลูกกันเหอะ
ส่วนประเด็นของหนังที่ว่าด้
อย่างที่ในเรื่องว่า การมีลูกทำให้เรามีความสุข แม้ว่าจะต้องเสียสละอะไรบาง