36, ภาพยนตร์โดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
36
ภาพยนตร์โดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ (2012), A
หนังที่หาดูยากเรื่องหนึ่งในรอบปี ที่ไม่ใช่ว่าจะมีเงินอย่างเดียวแล้วจะดูได้
ต้องมีความพยายามและรู้ด้วยว่าธนาคารกรุงเทพอยู่ตรงไหน (แซวนะ 555)
ดังนั้นเมื่อฉันได้เป็นหนึ่งในผู้ชมหนังเรื่องนี้ แม้จะเป็นรอบหลังๆ
แล้วก็ตาม ก็ขอภูมิใจในความมีอิทธิบาทสี่ของตัวเองซักนิดนึง
ความยาวหนังประมาณชั่วโมงกว่าๆ แบ่งเรื่องเป็น 36
ส่วนเหมือนกับฟิล์มถ่ายรูปหนึ่งม้วน คั่นแต่ละส่วนด้วยจอดำและคำบรรยายสั้นๆ
เกี่ยวกับเรื่องในส่วนนั้น ภาพแต่ละชอทจะเป็นกล้องนิ่งๆ
ที่ตั้งแช่เอาไว้แล้วปล่อยให้ตัวละครเคลื่อนไหว
อยู่ในเฟรมบ้างหลุดออกไปบ้าง
ซึ่งวิธีการแบบนี้มันจะทำให้หนังดูอินดี้ขึ้นมาทันทีถ้าเกิดว่าไม่มีส่วน
อื่นๆ มาช่วยทำให้มันดูง่าย และเข้าใจง่ายขึ้น
ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนที่เราชอบมาก
เพราะเราว่าคนทำเอาใจใส่กับรายละเอียดในเฟรมเยอะ
อย่างที่บอกว่าเมื่อกล้องมันไม่เคลื่อน
ตัวละครอาจจะอยู่หรือไม่อยู่ในเฟรมก็ได้ ส่วนประกอบอื่นๆ
มันเลยจะเข้ามามีบทบาทเยอะทันที่ในฐานะของตัวช่วยบอกใบ้และทำให้เรื่องไม่
น่าเบื่อ เสียงพูดและเสียง Ambiance กลายเป็นพระเอกในหลายๆ ตอนไปเลย
เช่นเดียวกับองค์ประกอบทั้งหมดที่จะอยู่ในเฟรม
ที่เราว่าครึ่งนึงมันเป็นจุดแข็งที่ทำให้เห็นความใส่ใจมากๆ
แต่อีกครึ่งนึงมันก็ดูประดิษฐ์ประดอยระดับนึงเหมือนกัน
ถ้ายังเรียนอยู่คงเอาเรื่องนี้ไปเขียนตอบเวลาส่งรายงานเรื่อง mise en
scence :P
ที่ชอบและจำได้จนถึงตอนนี้
คือฉากนกสีม่วงแดง ที่ภาษาภาพสวยมากๆ กับอีกฉากที่ชอบความรู้สึกในห้วงนั้น
คือตอนที่ทรายกลับไปที่บ้านของคุณป้าแม่น้องกีต้า เป็นบทสนทนาที่จริงมากๆ
ส่วนฉากที่รู้สึกขัดๆ
คงเป็นฉากที่ผู้หญิงมารับฮาร์ดดิสก์ที่ทิ้งเอาไว้ที่ร้านซ่อมหลายเดือน
คิดว่าเข้าใจว่าต้องการสื่ออะไรในฉากนั้น แต่เราไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
มันเหมือนพยายามจะยัดสารมากไปหน่อยในฉากนั้น
ส่วนประเด็นในหนังที่พูดเรื่องความทรงจำกับรูป
แบบการเก็บความทรงจำที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยมันดีนะ
มันตั้งคำถามและให้คำตอบกับเราเยอะ และก็มีที่ทิ้งไว้ให้คิดต่ออีกเหมือนกัน
ฉันเองก็เป็นคล้ายๆ ทรายในเรื่องแหละ
คือเป็นคนดิจิตอลและพึ่งพาดิจิตอลจนสุดทาง
และก็เคยโดยดิจิตอลหักหลังมาแล้วสองครั้งสองครา ฮาร์ดดิสก์ฉันเคยวาร์ป
และจบตัวเองมาแล้วสองครั้ง รูปถ่าย เพลง หนัง ที่เคยเก็บสะสมไว้
กะว่าจะเอากลับมาดูยามแก่เฒ่าหายไปหมด แต่ฉันก็จำได้ว่า
ฉันไม่ได้ฟูมฟายอยู่กับมันนานเท่าไหร่ ก็แค่เสียดาย แล้วก็จบไป
เพราะฉันว่าความทรงจำมันยังอยู่
การมีภาพถ่ายมันก็แค่ช่วยทำให้ความทรงจำของเราต่อสิ่งนั้นชัดเจนขึ้น
เท่านั้นเอง
ดีใจที่ได้ไปชมหนังเรื่องนี้
และขอเป็นกำลังใจให้พี่เต๋อ ขอให้มีแรงเยอะๆ ฉายหนังไปให้กว้างกว่านี้นะพี่
ถ้าลงบิทเมื่อไหร่เราจะไม่ลืมเข้าไปโหลด :)