JP14 EP.7: Hayai - เร็ว
7.速い
HAYAI เร็ว
พรุ่งนี้ต้องเร็วนะ...
เพราะว่าหลับไปกับคำนี้ ทำให้วันพรุ่งนี้ซึ่งก็คือวันนี้เร็วจริง ออกจากบ้านและขึ้นรถไฟได้ทันตามที่ตั้งใจไว้ ช็อคเล็กน้อยเมื่อเจอปริมาณผู้คนบนรถไฟล้นหลามต่างจากเมื่อวานแบบฟ้ากับเหว นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานมันเป็นวันหยุดของคนที่นี่เค้า แถมเมืองที่เอ็งไปก็บ้านนอกขนาดนั้นจะไปเจอใคร แต่วันนี้และหลังจากนี้ไปอีกสามสี่วันคือของจริง จากที่เมื่อวานได้นั่งดื่มด่ำตดอัดเบาะรถไฟไม่มีใครได้กลิ่น วันนี้ต้องยืนไปตลอดทางจนถึงเกียวโต แถมจะตดจะเรอก็ทำไม่ได้ น้อยใจจริงๆ
ที่ต้องทำตามกำหนดการแบบเป๊ะๆ ขนาดนี้ เพราะว่ามีนัดจะไปขึ้นรถไฟสาย Sagano Romantic Train รอบ 9.35 น. ที่สถานีต้นสาย Kameoka Torokko Station ถ้าเกิดว่าพลาดรอบนี้จะต้องรอไปอีกชั่วโมงนึง ซึ่งจะเสียเวลาเป็นอย่างยิ่ง จึงไปถึงสถานีที่ว่าล่วงหน้าไปชั่วโมงนึงแม่งเลย ทันเวลาสาแก่ใจเลยมั้ยล่ะ
Sagano Romantic Train หรือรถไฟสายโรแมนติก จริงๆ แล้วชื่ออย่างเป็นทางการคือ The Sagano Scenic Railway (嵯峨野観光鉄道) เป็นรถไฟที่วิ่งเลียบแม่น้ำโฮสุ (Hozugawa) ตัดผ่านภูเขาเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร ระหว่างสถานี Saga Torokko Station กับ Kameoka Torokko Station ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วยตัวขบวนรถสีเหลืองตัดแดงเวรี่วินเทจ นั่งๆ ไปนึกว่าอยู่บนรถ NGV ธรรมศาสตร์รังสิต ลุงๆ จอดหอป๋วยด้วย...
สมัยก่อนรถไฟสายนี้ใช้เดินทางกันจริงๆ โดยเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟ JR Sanin Line จนเมื่อปี 1989 ก็เลิกใช้ แต่ยังคงรักษาความวินเทจอันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้เป็นจุดขาย แล้วขายตั๋วให้นักท่องเที่ยวมารื่นรมย์กับความช้า และละเลียดอารมณ์ไปกับวิวสองข้างทางแทน
ค่ารถไฟเขาคิดเป็นเที่ยว คือเที่ยวละ 620 เยน ถ้านั่งไปกลับก็โดนไป 1240 เยน ไม่มีส่วนลดอะไรทั้งนั้น เราผู้อยากจะประหยัด จึงเลือกซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียว แล้วเลือกขึ้นที่สถานีบ้านนอก เพื่อมาสุดสายที่ Saga Torokko เดินต่ออีกนิดนึงก็ถึง JR Saga Arashiyama แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายตรงสถานีนั้น ดูมีการวางแผนมาอย่างดี ว่าแล้วก็ปรบมือให้ตัวเอง (เพื่ออะไร)
เนื่องจากมาถึงเร็วมาก จึงยังไม่ค่อยมีคน เลยไปต่อคิวซื้อตั๋วก่อนเพื่อให้ได้ที่นั่งระดับพรีเมี่ยม เนื่องจากรถไฟจะมี 5 ขบวน มีเพียงขบวนแรกเท่านั้นที่เป็นแบบเปิดโล่งรับลมเต็มที่ เราเลยตั้งใจจะนั่งขบวนแรกให้สมเกียรติ ซึ่งการจองก็เป็นไปได้ด้วยดี นั่งไปเลยหัวขบวน พรีเมียมเสียให้สุด
พอจองตั๋วเสร็จก็สบายใจแล้ว จึงลงไปถ่ายรูปด้านล่างสถานี ที่รายล้อมด้วยภูเขา ทุ่งนา และแม่น้ำ อากาศดีมากจนจะเอาตั๋วไปคืนแล้วกางเต้นท์นอน และพอนึกได้ว่าไม่ได้เอาเต้นท์มาเลยห้ามใจไว้ แล้วเดินกลับเข้าไปเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก และพอตอนที่กลับเข้าไปในตัวสถานี ก็สัมผัสได้ถึงพลังแห่ง ค..ค...ค...คน คนมาจากไหน มึงมาจากไหนกันนนนนนนนนนนนนนนนนนน
โลกแห่งความจริงมาเยือนแล้วค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมลฑลฝั่งตะวันออกของประเทศจีนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ยังไม่รวมคนญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ อีก มาจากไหนกันวะ กูเดินไปถ่ายรูปแป๊บเดียวกลับมาทำไมมันเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้ ขอที่ให้ดิชั้นยืนด้วยค่ะ เพราะนี่ดิชั้นก็เดินวนหาที่ยืนมานานมากแล้ว
แล้วก็ถึงเวลาขึ้นรถไฟ ก็ไม่ได้เป็นซีนยิ่งใหญ่อะไร แค่รอคนเค้าลงแล้วเราก็เดินขึ้นไปนั่งในที่ของตัวเองแค่นั้น จากนั้นพอถึงเวลารถไฟก็ร้องปู๊นๆ แล้วก็ออกเดินทางรถไฟจะวิ่งไม่เร็วมากเพื่อให้เราชมวิวและถ่ายภาพ บางจุดที่พีคๆ ก็มีบริการจอดให้ถ่ายรูปด้วย แต่มันก็มีช่วงที่ลอดอุโมงค์ข้ามเขาเยอะจนบางช่วงก็รู้สึกว่ากูนั่ง MRT ที่กรุงเทพฯ ก็ได้นะ แต่พอคิดยังไม่จบ รถไฟก็ออกจากความมืดแล้วโชว์วิวสองข้างทางมาปลอบใจ
ประมาณยี่สิบนาทีรถไฟก็เทียบท่าที่สถานี Saga Torokko เชิญแขกผู้มีเกียรติลงกันได้แล้วค่ะ จากนั้นก็เดินต่อโดยอาศัยเดินตามคนข้างหน้าไปเลย ทุกคนเดินไปทางไหนหนูตามเลยค่ะพี่ เพราะหนูไม่รู้อะไรแล้วหลังจากนี้ ซึ่งผลจากการเดินตามคนข้างหน้าไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เรามาโผล่ที่เส้นทางป่าไผ่ Bamboo Groves อันลือลั่น โอ...ที่เคยเห็นตามโปรไฟล์พิคเจอร์เพื่อนในเฟซบุ๊ก ของจริงมันหน้าตาแบบนี้นี่เอง
มันยากมากที่จะถ่ายอีป่าไผ่นี้ให้ไม่ซ้ำและไม่คลิเชและไม่ติดคน จึงถ่ายรูปมาไม่เยอะ แล้วตั้งหน้าตั้งตาเดินตามคนข้างหน้าต่อ จนสุดทาง พบเจอถนนใหญ่ที่ความเจริญเข้าถึง และแน่นอน นักท่องเที่ยวเต็มสองข้างทางเดินเลย ฮือออออออออออออออออออ.......
ตอนนั้นรู้สึกคิดถึงญี่ปุ่นแบบสงบวิเวกแบบที่ได้เจอมาเมื่อวานมากๆ พอมายืนตรงนี้แล้วปรับอารมณ์ไม่ทัน กลายเป็นว่าความอยากเดินไปไหนต่อไหนมันหดหายไปหมด เลยเดินตัวฟีบๆ ตามคนข้างหน้าไปเรื่อยๆ มีเลี้ยวเข้าซอยแปลกๆ บ้าง แต่ไม่ได้มีความทรงจำที่น่าสนใจที่น่าพูดถึง
เหี่ยวซะแล้วเรา...
0 comments: