เที่ยวญี่ปุ่นช่วง Golden Week ก็ไม่ได้แย่นะ
เนื่องจากตอนจองตั๋วไปญี่ปุ่นรอบนี้ เป็นการจองช่วงโปรโมชัน ไม่มีเวลามาศึกษาหาข้อมูลอะไรเลย เปิดปฏิทินไทย เห็นวันหยุดยาวๆ เพิ่มวันลาเข้าไปอีกนิดหน่อย เอาเว้ย ได้หลายวันอยู่ ก็คลิกจองเรียบร้อย ก่อนจะมารู้ว่า ช่วงที่เราไปนั้น มันตรงกับช่วงวันหยุดยาว (Golden Week) ของชาวญี่ปุ่นเขาพอดีพอดิบ จริงๆ มันคือวันที่ 3-6 พ.ค. แต่เนื่องจากมันติดวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ด้วย เลยอาจจะนับตั้งแต่วันที่ 2 ลากยาวไปถึง อาทิตย์ที่ 10 พ.ค. เลยก็ได้ (ปี 2558)
นั่นมันทั้งทริปกูเลยนะ!
ก่อนไปจึงโดนไซโคอย่างหนัก ทั้งจากสิ่งมีชีวิต คือเพื่อนฝูง ที่พร้อมใจกันกดดันว่า มึงเที่ยวไม่สนุกแน่ๆ เพราะคนมันจะเยอะ เยอะมาก เยอะที่สุด เหมือนมึงเป็นตัวมอดดิ้นรนอยู่ในถังข้าวสารอย่างนั้นแหละ ไม่มีที่จะเดินเลย ไปฝึกวิชาลอยตัวก่อนดีมั้ย
อีกทางคือจากสิ่งไม่มีชีวิต คือไอ้พวกระบบจองบัตรล่วงหน้า ที่มองไปทางไหนก็เต็ม ยิ่งตอนจองบัตร Express เพื่อเข้า Universal Studio Japan ที่โอซาก้า แม่งเหลืออยู่วันเดียวคือวันที่ 2 พ.ค. ส่วนวันที่ 3-6 นั้นเต็มแบบถ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์มันแตกได้มันคงแตกไปแล้ว
ชิบหาย แพนิกสุดๆ ถึงกับต้องไปพนมมือขอกับกระดูกแม่ ให้ช่วยเคลียร์ทางให้หน่อยเวลาจะเดินทาง จะได้ไม่ต้องพบเจอคนเยอะมาก (แม่มึงเป็นตำรวจจราจรเหรอ อีห่า)
แต่ก็นะ ตั๋วมันจองไปหมดแล้ว จะเปลี่ยนก็คงทำไม่ได้ ต้องเดินหน้าลุยสถานเดียว จึงไปเที่ยวทั้งๆ ที่แม่งเป็นอาทิตย์ดอกทองอย่างนั้นแหละ และเมื่อกลับมา ก็พบว่า เฮ้ย มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
ดังจะสรุปไว้เป็นข้อๆ เนื่องจากขี้เกียจเรียบเรียง
1. คนเยอะจริง เพราะมันเป็นวันหยุด แต่มันเป็นวันหยุดของญี่ปุ่นไง ไม่ใช่ของประเทศอื่น มันเลยเยอะไปด้วยคนญี่ปุ่น คนจีนไม่ค่อยเห็น คนไทยไม่ค่อยเจอ (อาจจะเป็นด้วยที่ที่เราไปเที่ยวด้วยแหละมั้ง) ความโหวกเหวกจนเกินงามตามฉบับไทยจีนจึงไม่ค่อยเจอ เจอแต่คนรีบๆ เดินเร็วๆ คนแก่ เด็ก และคู่รัก
2. ถ้าไม่ชอบเด็ก อาจจะไม่เหมาะกับการเที่ยวช่วงนี้ เพราะเด็กเยอะ เป็นช่วงที่ผู้ปกครองพาเด็กออกไปเที่ยว ส่วนหนึ่งเพราะมันตรงกับวันเด็ก และวันแม่ ของญี่ปุ่นด้วย
3. ทั้งทริปเจอเด็กเปรตแค่คนเดียว บนเรือเฟอร์รี่กลับจากนาโอชิมา เป็นเด็กชายญี่ปุ่นสองคน มากับพ่อแม่ครบ แม่งเป็นพี่น้องเล่นกันไง คนพี่ไม่เท่าไหร่เพราะโตแล้ว แต่คนน้องน่าจะราวสามขวบ พอเล่นกับพี่แล้วสะใจก็กรี๊ดออกมา แล้วมึงสะใจถี่มาก กรี๊ดเหมือนเจอไอดอล AKB48 บางทีแม่งก็ครางเหมือนจะร้องไห้ แต่พอหันไปดูคือเป็นการส่งเสียงแสดงความพึงพอใจของน้องเค้า มองไปที่โอก้าซัง นางก็เล่นโทรศัพท์อยู่ คุณแม่ มึงเงยหน้ามามองโลกบ้าง คนเค้ามองมึงทั้งเรือแล้วค่ะ
4. นอกนั้นแล้ว เป็นเด็กที่โอเค ก็ซนตามวัย แต่ดูท่าทางดูแลตัวเองได้ ไม่โยเย ไม่เป็นภาระ แก้มแดงน่ารักกันแทบทุกคน
5. เราเจอคนไม่เยอะมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราดันไปเที่ยวเมืองที่เขาไม่ค่อยไปเที่ยวกัน ไปเมืองออนเซ็นบ้านนอก เจอแต่คนญี่ปุ่นล้วนๆ, ไปฮิโชิมา มีแต่คนญี่ปุ่นและฝรั่ง, นาโอชิมา มีแต่ครอบครัว คนแก่ และฝรั่งท่าทางฐานะดี วันที่เข้าโอซาก้าและโตเกียวเท่านั้นแหละ ที่ได้ประสบภัยคนเยอะตามสถานีรถไฟ และห้าง ส่วนร้านอาหารทั่วไปก็ไม่ได้คนเยอะ ต้องต่อคิวครั้งเดียว คือตอนไปกินโอโคโนมิยากิ ที่ฮิโรชิมา แล้วคนญี่ปุ่นจากต่างเมืองทุกคนก็คิดแบบเรา เลยต้องต่อคิวร่วมกับคนญี่ปุ่นนับร้อย แต่ก็เป็นแถวที่มีระเบียบดี และเข้าบริหารจัดการดี ทำให้ไม่ได้ต้องรอนานนัก
6. วันที่กังวลที่สุด คือตอนไป USJ แต่พอเอาเข้าจริง มันก็เป็นปริมาณคนระดับมาตรฐานที่เราจะเจอตามธีมปาร์คนะ ยิ่งพอซื้อบัตร Express เข้าไป ยิ่งสบายมากๆ ไม่ต้องรอเลย เล่นครบได้ภายในเวลาครึ่งวัน
7. ส่วน Harry Potter ที่ต้องกดบัตรคิวเข้า ทีแรกเราไม่ได้กะจะไปกด เพราะว่าซื้อบัตร Express มาแล้ว ได้ทำการเลือกรอบเข้าในเว็บไซต์ไปแล้ว (ซึ่ง ณ วันจอง มันเหลือรอบเดียวคือ 19.00 น. เย็นมากกก) แต่ซักสิบเอ็ดโมง เดินเล่นไปจนถึงตู้ที่เขาให้กดจองรอบเข้าแฮร์รี่ เลยไปใช้สิทธิ์บัตรแบบธรรมดาลองกดเข้าไปดูหน่อย ปรากฏว่าได้รอบ 13.10 น. อ้าว ก็คนไม่เยอะหนิ (เคยเห็นรีวิว บางคนมากดแต่เช้า ได้รอบ 17.00 น.) เลยเป็นโชคดี ได้เข้าแฮร์รี่สองรอบ กลางวันและกลางคืน สาแก่ใจไปเลย
8. ที่ไม่ดีของโกลเด้นวีคก็มี คือ รถไฟเต็ม ทีแรกตั้งใจว่าจะตีตั๋วรถนอน Sunrise Seto จากทาคามัทสึเข้าโตเกียว อุตส่าห์ไปจองตั๋วตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง พนักงานบอกว่า ตั๋วขายหมดไปนานแล้ว เพราะมันตรงกับโกลเด้นวีคนะมึงนะ อีโง่ (คำหลังเดิมเอง) เลยต้องเปลี่ยนแผนด่วน จองโรงแรมเพิ่มหนึ่งคืน แล้วนั่งชินคังเซนเข้าโตเกียวแทน
9. ชินคังเซนก็เต็มเหมือนกัน แต่ก่อนขึ้นชินคังเซนนี่สามารถเลือกที่นั่งได้อย่างมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว เพราะมันโล่งมาก นั่งสบาย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้มาเห็นสภาพชินคังเซนเหมือนรถเมล์สาย 542 ที่เต็มหมดทุกที่นั่ง และมีคนยืนจับราวตามทางเดินไปตลอดทาง
10. พอเราเริ่มปรับตัวได้ เลยจะไปรอก่อนรถไฟมาประมาณ 5-10 นาทีก่อนทุกครั้ง เพื่อต่อคิวไว้ก่อน เอาให้แน่ใจว่ากูต้องได้นั่งแน่ๆ ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหาเลย ได้นั่งตลอด เป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยวไกจินอย่างเรา
11. ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านทุกอย่างเปิดทำการหมด แถมทุกร้านมีโปรโมชัน Golden Week Sale กันถ้วนหน้า ไม่รู้ว่าแม่งติดป้ายหลอกรึเปล่า แต่เราผู้เป็นทาสการตลาด เห็นป้ายแดงที่ไหน วิ่งเข้าใส่ทุกที่ และเท่าที่ดูราคามันก็ถูกนะ บางร้านลด 50% เลยด้วย (แต่ต้องทำใจกับการต่อคิวจ่ายเงินนิดนึง เพราะแถวมันยาวมาก)
12. ที่พักดูเหมือนจะหายาก แต่ก็พอหาได้ อย่างตอนที่ต้องจองโรงแรมเพิ่มอีกคืน ในใจคิดว่าแม่งต้องไม่มีเหลือว่างแน่ๆ แต่พอเช็คดู อ้าวก็ว่างหลายที่ แถมราคาถูกกว่าตอนจองมาทีแรกซะอีก
13. อากาศดี แดดแรง ท้องฟ้าสวยทุกวัน เจอฝนตกหนึ่งวัน มืดๆ ครึ้มๆ อีกสองวัน นอกนั้นแดดล้วนๆ ถ่ายรูปสนุกมาก ตัวก็เกรียมมากเช่นกัน (ไม่รู้โดยทั่วไปเป็นแบบนี้ทุกปีรึเปล่านะ)
14. งานเทศกาลเยอะมาก ที่เจอเองก็เช่น Castle Festival ที่ฮิเมจิ (เห็นน้องขวัญแก้วไป ปราสาทโอซาก้าก็มีงาน) มีงานเทศกาลดอกไม้ที่ฮิโรชิมา พอเข้ามาโตเกียว ก็มีงานแห่ศาลเจ้าที่อากิฮาบะระ และอาซากุสะ สนุกเราสิ
โดยสรุป ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวตามเมืองใหญ่ เน้นแลนด์มาร์ค กินอาหารร้านดัง การไปเที่ยวช่วงโกลเด้นวีค มันไม่ได้เลวร้ายเลยนะ อย่างที่บอกว่า ที่เยอะมันคือคนญี่ปุ่น มันจึงไม่จอแจมากเท่าไหร่ และคนมันเยอะก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเรานะ (คนญี่ปุ่นเขามีความเป็นส่วนตัวของเขาอยู่เยอะ) มันก็เลยต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิต เราแค่อย่าไปเป็นภาระเกะกะเขา เท่านั้นก็น่าจะพอ
ปีหน้าถ้าให้ไปช่วงโกลเด้นวีคอีกก็ไปนะ สำหรับเราไม่มีปัญหาเลย
0 comments: