Inside Out: โตมากับเรื่องเศร้า
Inside Out(2015, Pete Docter, Ronaldo Del Carmen, A)
ในหัวอุทานว่า "ไอ้เชี่ย อัจฉริยะ" หลายรอบมาก โดยเฉพาะงานภาพ ก้มลงกราบให้เลยสามที ชอบวิธีการอธิบายทุกอย่างที่อยู่ในสมองเราออกมาเป็นวิชวลแบบนี้ ทุกอย่างถูกคิดมาหลายตลบและลงรายละเอียดกันมันเยอะแน่นอน และผลที่ออกมาคือมันเข้าใจได้ง่าย เราตามทัน และเรารู้สึกร่วมกับมันตลอด
หนังจะสลับ Inside - Outside ตัวละครหนูไรลีย์ตลอด เพื่อให้เราดูว่าข้างในมันสั่งการออกมาที่ข้างนอกอย่างไร แต่ที่แปลกคือ เราเองก็อดที่จะคิดถึงตัวเองตามไปด้วยตลอดเลย สมองเราเองก็พยายามจะวิ่งให้ทัน และแทนค่าตัวเองเข้าไปเป็นตัวละครนั้น วันที่เกาะบุคลิกภาพของเราพังลงไปมันคือตอนไหน แต่ก่อนเราเคยเป็นยังไง วันที่ Joy และ Sadness เราหายไปเราเป็นยังไงนะวันนั้น และครั้งสุดท้ายที่เราจำชื่อตุ๊กตาที่แม่ซื้อให้มันคือเมื่อไหร่ เราคิดถึงสิ่งพวกนี้ตามหนังไปตลอด นั่นคงเป็นอารมณ์ร่วมสุดๆ ที่มี และแปรสภาพเป็นน้ำตาขนานใหญ่เมื่อถึงตอนที่หนังมันเร้าเราให้ร้อง
ความ Coming of age ของเรื่องนี้มันน่าสนใจตรงที่มันเป็นวิทยาศาสตร์ มันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดกับเราทุกคนอยู่แล้ว หนังแค่พยายามอธิบายเรื่องพวกนี้ให้เราเข้าใจ ยิ่งรู้สึกเข้าไปอีกว่า คนเรานี่มันเกิดมาเพื่อเศร้าจริงๆ การเติบโตคือการสะสมอะไรหลายสิ่งและก็คือการทิ้งอะไรหลายอย่างในระหว่างการเดินทางนั้น เป็นสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดเอาไว้ ฝืนไม่ได้ เลยยิ่งทำให้เศร้าเข้าไปอีก
ตัวเราในตอนนี้เหมือนไม่ได้เป็นเจ้าของเดียวกับตัวเราเมื่อสิบ หรือยี่สิบปีที่แล้ว และอีกยี่สิบปีข้างหน้าก็คงไม่เหมือนตัวเราตอนนี้เหมือนกัน เราพร้อมจะเปลี่ยนแปลงและละทิ้งบางรายละเอียดในชีวิตเพื่อที่จะเติบโตไปข้างหน้า งั้นตัวเราจริงๆ อยู่ตรงไหน เป็นยังไง เราไม่รู้เลยว่าเรื่องสำคัญในวันนี้จะสีซีดจางจนโดนเขี่ยทิ้งเป็นความทรงจำที่ถูกลืมไปเมื่อไหร่ก็ได้ เศร้านะที่เราไม่เพียงแค่ไม่ทันตั้งตัวนะ เราไม่รู้ตัวเลยต่างหากว่าพอตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้นเราก็ลืมเรื่องพวกนั้นไปเสียแล้ว
คนเรามันเศร้านะ เศร้ามากจริงๆ
0 comments: