The Walk: ละมุนบนความเสียว
The Walk(2015, Robert Zemeckis, B+)
โอย หัวใจทำงานหนักมาก เก็งไว้ตั้งแต่ตอนดูตัวอย่างแล้วว่ากูต้องไม่รอด
เอาเข้าจริงก็เป็นไปตามนั้น เสียวชิบหาย
แม้จะรู้ว่าภาพข้างหน้าแม่งซีจีทั้งนั้น มันไม่จริง ตอนจบเป็นยังไงก็รู้
(แน่สิ มันเรื่องจริง) แต่เราก็ถูกดูดเข้าไปอยู่ในหนังแล้ว
และก็อดจะเสียวทรวงในไปทุกๆ วินาทีบนเส้นลวดนั้นไม่ได้ ไอ้ห่า
มึงลงมาได้แล้ว กูจะไม่ไหวแล้ว
เราว่า Robert Zemeckis เก่งในแง่ที่เล่าเรื่องคนให้มันมหัศจรรย์ วูบวาบมีชีวิตชีวาประหนึ่งว่าอยู่ในเทพนิยายหรือนิทานซักเรื่อง รู้สึกว่าชีวิตมันละมุน ไม่ว่าจะอยู่ในคอนดิชั่นแบบไหนมันก็ละมุน จะเป็นคนปัญญาอ่อน จะติดเกาะ ชีวิตแม่งก็ละมุน แม้จะอยู่บนเส้นลวดแบบนั้นแต่มันก็ละมุน มันอ่อนโยนนะแต่ไม่บอบบาง เรารีแอ็คกลับกับชีวิตโดยหันด้านเข้มแข็งเข้าใส่ แต่หนังไม่ได้ไปขยายให้มันดูยิ่งใหญ่ฮึกเหิม ไอ้เสียงเปียโนงุ้งงิ้งงดงาม กับคนหลังยืดๆ ที่เดินอยู่บนเส้นลวดที่ไม่มีอะไรขึงชีวิตเอาไว้เลยนั่นแหละยิ่งใหญ่ ไม่ต้องเอาแฉเอาฉาบมาตีให้วุ่นวาย เราชอบการยั่วล้อกับชีวิตบนเส้นลวด กับวิธีการเล่าเรื่องตรงนั้น เล่นกับทุกอารมณ์ในตัวเรา จนตัวไม่ติดเบาะ ในสมองยุ่งเหยิง อยากจะร่วมรื่นรมณ์และร่วมเฉลิมฉลองกับความงดงามของชีวิตบนเส้นลวดไปกับหนัง ด้วยนะ แต่ไม่ไหว กูแพ้ความสูง
อีกอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนจะดูหนัง คือเรื่องการเตรียมการ ที่เพิ่งรู้ว่ามันต้องทำอะไรมากขนาดนี้เลยเหรอวะ เออ คือเราคงอยู่ในโลกยุคที่ทุกอย่างมันเป็นโชว์และมีออกาไนเซอร์พร้อมจะช่วยปัด เป่าทุกความยุ่งยาก เพื่อให้ผู้โชว์เอาเวลาไปเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เลยไม่คิดว่าไอ้การก่อการขึงลวดแม่งจะยิ่งใหญ่ซับซ้อนและต้องเตรียมการอะไร ขนาดนี้ ยังดีว่าโลกสมัยนั้นยังไม่แข็งขันเรื่องความปลอดภัยเหมือนสมัยหลัง 9-11 ไม่งั้นหนังจบอยู่ที่ทางออก ตม.นิวยอร์คนั่นแหละ มึงมีพิรุธที่สุดแล้ว
JGL คือความงดงาม ของโลกใบนี้ องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนผู้ชายคนนี้ได้แล้ว เราจะได้ร่วมใจกันรักษา มีเสน่ห์ตั้งแต่วินาทีแรกที่แนะนำตัวจนถึงฉากจบ อยากรู้ว่าเอาอินเนอร์ตรงไหนไปใช้ตอนแสดงฉากเดินบนลวด
รู้สึกดีมากที่ไม่ได้ดูแบบ 3D และถ้าจะดูอีกทีคงซื้อแผ่นมาดูที่บ้าน เพื่อลดความสมจริงลงไปหน่อย ไอ้สัส ไม่ไหว ใจเต้นแรงมาก ตอนท้ายเรื่องคือตัวสั่นเหมือนสามก้าวสุดท้ายบนลวดอย่างงั้นเลย แต่ก็เป็นความเครียดที่เพลิดเพลินซะจริง
ปล. รอไปดู Man on wire คิดว่าน่าจะเครียดหนักกว่าเดิม เตรียมใจไว้แล้ว
เราว่า Robert Zemeckis เก่งในแง่ที่เล่าเรื่องคนให้มันมหัศจรรย์ วูบวาบมีชีวิตชีวาประหนึ่งว่าอยู่ในเทพนิยายหรือนิทานซักเรื่อง รู้สึกว่าชีวิตมันละมุน ไม่ว่าจะอยู่ในคอนดิชั่นแบบไหนมันก็ละมุน จะเป็นคนปัญญาอ่อน จะติดเกาะ ชีวิตแม่งก็ละมุน แม้จะอยู่บนเส้นลวดแบบนั้นแต่มันก็ละมุน มันอ่อนโยนนะแต่ไม่บอบบาง เรารีแอ็คกลับกับชีวิตโดยหันด้านเข้มแข็งเข้าใส่ แต่หนังไม่ได้ไปขยายให้มันดูยิ่งใหญ่ฮึกเหิม ไอ้เสียงเปียโนงุ้งงิ้งงดงาม กับคนหลังยืดๆ ที่เดินอยู่บนเส้นลวดที่ไม่มีอะไรขึงชีวิตเอาไว้เลยนั่นแหละยิ่งใหญ่ ไม่ต้องเอาแฉเอาฉาบมาตีให้วุ่นวาย เราชอบการยั่วล้อกับชีวิตบนเส้นลวด กับวิธีการเล่าเรื่องตรงนั้น เล่นกับทุกอารมณ์ในตัวเรา จนตัวไม่ติดเบาะ ในสมองยุ่งเหยิง อยากจะร่วมรื่นรมณ์และร่วมเฉลิมฉลองกับความงดงามของชีวิตบนเส้นลวดไปกับหนัง ด้วยนะ แต่ไม่ไหว กูแพ้ความสูง
อีกอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนจะดูหนัง คือเรื่องการเตรียมการ ที่เพิ่งรู้ว่ามันต้องทำอะไรมากขนาดนี้เลยเหรอวะ เออ คือเราคงอยู่ในโลกยุคที่ทุกอย่างมันเป็นโชว์และมีออกาไนเซอร์พร้อมจะช่วยปัด เป่าทุกความยุ่งยาก เพื่อให้ผู้โชว์เอาเวลาไปเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เลยไม่คิดว่าไอ้การก่อการขึงลวดแม่งจะยิ่งใหญ่ซับซ้อนและต้องเตรียมการอะไร ขนาดนี้ ยังดีว่าโลกสมัยนั้นยังไม่แข็งขันเรื่องความปลอดภัยเหมือนสมัยหลัง 9-11 ไม่งั้นหนังจบอยู่ที่ทางออก ตม.นิวยอร์คนั่นแหละ มึงมีพิรุธที่สุดแล้ว
JGL คือความงดงาม ของโลกใบนี้ องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนผู้ชายคนนี้ได้แล้ว เราจะได้ร่วมใจกันรักษา มีเสน่ห์ตั้งแต่วินาทีแรกที่แนะนำตัวจนถึงฉากจบ อยากรู้ว่าเอาอินเนอร์ตรงไหนไปใช้ตอนแสดงฉากเดินบนลวด
รู้สึกดีมากที่ไม่ได้ดูแบบ 3D และถ้าจะดูอีกทีคงซื้อแผ่นมาดูที่บ้าน เพื่อลดความสมจริงลงไปหน่อย ไอ้สัส ไม่ไหว ใจเต้นแรงมาก ตอนท้ายเรื่องคือตัวสั่นเหมือนสามก้าวสุดท้ายบนลวดอย่างงั้นเลย แต่ก็เป็นความเครียดที่เพลิดเพลินซะจริง
ปล. รอไปดู Man on wire คิดว่าน่าจะเครียดหนักกว่าเดิม เตรียมใจไว้แล้ว
0 comments: